หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เกร็ดความรู้ 8 วิธี ที่ทำให้ดื่มน้ำง่ายขึ้น

1.ดื่มน้ำให้เหมือนเป็นกิจวัตร พยายามดื่มน้ำทุกเช้าหลังตื่นนอนให้เหมือนเป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะการดื่มน้ำตอนเช้าจะช่วยกระตุ้นให้คุณรู้สึกอยากดื่มน้ำมากไปตลอดทั้ง วัน ทั้งยังช่วยเรื่องการขับถ่ายอีกด้วย
2.บีบน้ำมะนาวใส่นิด ๆ หากคุณรู้สึกแปลก ๆ กับรสชาติที่จืดชืดของน้ำเปล่า ขอแนะนำให้คุณหามะนาวมาบีบลงไปในน้ำเปล่าซักเล็กน้อยก่อนดื่ม เพื่อช่วยเพิ่มรสชาติให้กับน้ำ
3.ทำให้มันใสอยู่เสมอ หมั่นตรวจดูปัสสาวะของคุณหลังเสร็จธุระ เพื่อให้มั่นใจว่ามันยังใสอยู่เสมอ เพราะความใสนั้นเหมือนเป็นดัชนีวัดว่า ร่างกายของคุณได้รับน้ำอย่างเพียงพอ แต่เมื่อไรก็ตามที่ปัสสาวะของคุณมีสีเหลืองเข้ม นั่นหมายความว่าร่างกายของคุณกำลังอยู่ในภาวะขาดน้ำ
4.ถ้าร้อนนัก ก็ดื่มซะ เมื่อคุณกำลังอยู่ในอารมณ์ที่เดือดดาล ขอแนะนำให้ดื่มน้ำอุ่น เพราะบางครั้งการเลือกเครื่องดื่มก็เป็นเรื่องของจิตวิทยา การที่คุณได้ถือเครื่องดื่มอุ่น ๆ สักแก้วไว้ที่มือ อาจช่วยให้คุณลดอารมณ์เดือดดาลลงได้มากกว่าเครื่องดื่มปกติ ยิ่งกว่านั้น ในกาแฟและน้ำชายังมีสารคาเฟอีน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเพิ่มอัตราการกำจัดน้ำออกจากร่างกายของคุณ ในรูปของปัสสาวะ
5.ดื่มน้ำเมื่อคุณถูกความตะกละจู่โจม บางครั้งความรู้สึกหิวของคนเราก็เป็นความกระหายแบบหลอก ๆ หรือแค่รู้สึกตะกละเท่านั้น ดังนั้นคุณสามารถแก้อาการนี้ได้ด้วยการหาน้ำดื่มซัก 1- 2 แก้ว เพื่อช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนได้กินอะไรรองท้อง
6.เริ่มปฏิบัติจากขั้นตอนง่าย ๆ อย่าคาดหวังว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำได้ จากหน้ามือเป็นหลังมือ คือจากคนที่ไม่ดื่มน้ำเลยมาดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว แต่คุณควรเริ่มจากการดื่มน้ำ 1 แก้วในตอนเช้าของวัน ตามด้วยการดื่มน้ำอีก 1 แก้วก่อนนอนจนเป็นนิสัย จากนั้นค่อยๆเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำระหว่างวันให้มากขึ้น
7.ถูก และ ถูก อย่าลืมว่า น้ำดื่มตามภัตตาคารนั้นมีให้บริการฟรี แบบไม่อั้น
8.หมั่นหาแก้วน้ำที่มีน้ำเต็มแก้ว 1 ใบมาวางไว้ข้างตัวคุณเสมอ ขณะคุณกำลังทำงาน เพราะมันจะทำให้คุณสะดวกต่อการหยิบขึ้นมาจิบไปเรื่อยๆ ขณะทำงานโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเวลาที่คุณต้องสุมหัวคิดงานกับเพื่อน ๆ หรือเป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหาหากคุณไม่ต้องการให้มือของคุณอยู่ว่าง

วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สื่อสารมวลชน สิ่งพิมพ์ ศิลปะ วัฒนธรรม


เว็บไซต์ที่มีจำนวนยอดผู้เข้าชมสูงสุด คือ สนุกดอตคอม
เว็บไซต์
ข่าวที่มีจำนวนยอดผู้เข้าชมสูงสุด คือ ผู้จัดการออนไลน์
วงดนตรี
เฮฟวี เมทัลวงแรก คือ คาไลโดสโคป
นักร้องหญิงคนแรกที่มียอดจำหน่ายงานเพลงได้หนึ่งล้านชุด และเป็นคนเดียวที่ทำสถิติไว้ถึง 3 อัลบั้ม คือ
คริสติน่า อากีล่าร์[ต้องการอ้างอิง]
นักร้องหญิงที่มียอดจำหน่ายเทปสูงที่สุด และมีจำนวนเพลงยอดนิยมมากที่สุด คือ
ใหม่ เจริญปุระ[ต้องการอ้างอิง]

บทความดีๆน่าอ่าน เสียงเห่าสุนัข…บอกอะไรเราได้บ้าง


การเห่าสั้น ๆ 2-3 ครั้ง เป็นการทักทายกันยามปกติ…เช่นเมื่อคุณกลับเข้าบ้าน หรือเมื่อเจอกันตอนเช้าหลังตื่นนอน เป็นต้น แปลความหมายได้ว่า.. “สวัสดีเจ้านาย”
การเห่าเป็นชุด ๆ ละ 3-4 ครั้ง แล้วหยุดเป็นระยะ เป็นการชักชวนให้คุณมาดูอะไรบางอย่าง…. แปลความหมายได้ว่า…”มาดูอะไรนี่สิ”
การเห่าเร็ว ๆ ติด ๆ เป็นการเตือนภัยว่าจะมีอะไรเข้ามาใกล้ หรือในเวลาที่หมาน้อยมองเห็น ได้กลิ่นของคนแปลกหน้า มีความหมายว่า “ระวังนะ!!! กำลังมีอันตรายเข้ามาใกล้เราแล้ว…”
แต่ถ้าโทนเสียงต่ำ ๆ ติด ๆ ละก็มีความหมายว่า “อันตรายมาถึงแล้วนะ” หรือเป็นการขู่คนร้ายว่า “อย่าเข้ามานะ เดี๋ยวกัดเลย”
เห่าแล้วหยุด…เห่าแล้วหยุด ติดต่อกันเป็นเวลานาน เป็นการบอกว่า “เหงาจัง” มาเล่นเป็นเพื่อนหน่อยซิ
การเห่าครั้งเดียวสั้น ๆ หากคุณหรือใครอื่นกำลังยุ่งวุ่นวายกะเค้าอยู่แล้วมีการเห่าสั้น ๆ ขึ้นนั้น มีความหมายว่า “รำคาญนะ อย่ามายุ่ง อยากอยู่คนเดียว” แต่ถ้าไม่มีใครวุ่นวายกะเค้าอยู่ละก้อ…มีความหมายว่า “อยากเข้าห้องน้ำ หรือหรือถึงเวลาให้อาหารแล้ว”
การเห่าติดต่อกันนาน ๆ ถ้าเป็นลูกสุนัขไม่มีอะไรมากหรอก..เขาแค่ต้องการให้คุณอยู่ใกล้ๆ และสนใจตลอดเวลา ประมาณว่าออดอ้อนอะไรทำนองนั้น
การเห่ารัว ๆ และดังขึ้นเรื่อย ๆ เป็นการบ่งบอกว่าเค้าตื่นเต้น และกำลังสนุกจริง ๆ
ลองสังเกตสุนัขที่บ้านดูนะคะ เค้าคุยกับเราไม่ได้ เราก็ลองสังเกตพฤติกรรมการสื่อสารของเค้าดูนะคะ

เกร็ดน่ารู้ วิธีล้างพิษอาหาร ก่อนกิน


1.ปลอดภัยด้วยสูตรขนมปัง ใช้โซดาทำขนมปัง (โซเดียมไบคาร์บอเนต) 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่น 20 ลิตร (1 กาละมัง) แช่ผัก ทิ้งไว้ 15 ก่อนนำมาปรุงอาหาร
2.ลดสารพิษฆ่าแมลง 60-84% ใช้น้ำส้มสายชู 0.5% หรือน้ำส้มสายชู อสร. 1 ขวดผสมน้ำ 4 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้ 15 นาที
3.ลดสารพิษฆ่าแมลง 54-63% เด็ดผักเป็นใบๆ ใส่ตะกร้าโปร่ง เปิดน้ำไหลแรงพอประมาณ ใช้มือช่วยคลี่ใบผัก ล้างนาน 2 นาที
4.ลดสารพิษฆ่าแมลง 7-33% ล้างผักรอบแรกให้สะอาด เด็ดผักออกเป็นใบๆ แช่ในอ่างน้ำนาน 15 นาที
5.ลดสารพิษ 50% ลวกผักด้วยน้ำร้อน ส่วนการต้มนั้นลดสารพิษได้ 50% เช่นเดียวกัน แต่จะมีสารพิษตกค้างในน้ำแกง จึงควรล้างผักลดสารพิษก่อนทำแกง
6.เสียปริมาณดีกว่าเสียใจ ผักที่มีกาบใบห่อหุ้มเป็นชั้นๆ เช่น กะหล่ำปลี หัวหอมใหญ่ ควรปอกเปลือกหรือลอกใบชั้นนอกออกจะสามารถช่วยลดสารพิษลงได้
7.ฆ่าเชื้อด้วยคลอรีน ผสมผงปูนคลอรีน 1/2 ช้อนชากับน้ำ 20 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้ 15-30 นาทีจะฆ่าเชื้อโรคได้ดีมาก
8.ล้างผักด้วยน้ำยาล้างจาน ใช้น้ำยาล้างจานกับฟองน้ำ (หรือสก็อตไบรต์) ถูเบาๆ ช่วยลดโอกาสติดเชื้อที่อยู่บริเวณผิวของผลไม้ได้ วิธีนี้ยังเหมาะสำหรับล้างไข่ด้วย
9.ล้างนอกล้างใน ผลไม้ที่กินทั้งเปลือกได้ เช่น มะเฟือง สตรอเบอร์รี่ ฝรั่ง ควรล้างหลายๆ ครั้ง ใช้แปรงขนอ่อนถูเบาๆ ให้ทั่วแล้วล้างน้ำเกลือหรือน้ำสุก ส่วนผลไม้ที่ต้องปอกเปลือกก่อนจึงกินได้ เช่น มะม่วง มะละกอ สับปะรด ควรนำมาล้างก่อน จึงค่อยปอกเปลือก เพราะถ้าไม่นำมาล้างก่อน สิ่งสกปรกบนผลไม้จะติดไปกับมือหรือมีดขณะปอกผลไม้ได้ ทำให้เนื้อผลไม้สกปรก
10.ยาสีฟันสารพัดประโยชน์ องุ่นปกติมักจะมีคราบเหมือนยางเป็นฝ้าขาวๆ ล้างยังไงก็ไม่ออก วิธีล้างให้เด็ดผลองุ่น ออกจากพวงใส่ภาชนะบีบยาสีฟัน (อะไรก็ได้) พอสมควร ขยี้ให้ทั่วมือ ใส่น้ำพอสมควร แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าจนสะเด็ดน้ำ
ก่อนกินอาหารคราวหน้า อย่าลืมล้างสารพิษออกก่อนนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ

เรื่องน่าอ่าน วิธี… ขจัดความฟุ่มเฟือย


หลีกไกลอารมณ์อยากซื้อ ใน ที่นี้หมายถึงการเดินช้อปปิ้งทุกประเภท เพราะการขายของไม่ว่าให้ห้างสรรพสินค้า หรือตลาดนัดก็ตามล้วนมีการตกแต่งร้าน ทำการตลาดลดราคาให้ดูน่าซื้อหามาเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนจะมีของ Sale ล่อตาล่อใจ ให้สาวๆ ล่องลอยเข้าไปในร้านสู่โลกแห่งความฝัน และคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นคุ้มค่าเพราะราคาถูกกว่าครึ่ง โดยที่ไม่ได้นึกถึงเลยว่าเราไม่ได้ต้องการมันสักนิด หรือไม่มันก็ยังไม่จำเป็น เพราะว่าสาวๆ กำลังติดอยู่ในอารมณ์อยากซื้อนั่นเอง ดังนั้นหนทางแก้อยู่ที่การกลับไปนอนคิดที่บ้านก่อน สักพักอารมณ์อยากตรงนั้นก็จะหายไปเอง
ใช้เวลาช้อปปิ้งมาทำงาน เอา เวลาที่คุณไปช้อปปิ้งทำงานที่ค้างไว้ หรือหาข้อมูลเกี่ยวกับการงานใหม่ๆ เพราะว่าเวลาที่คุณมีอยู่สามารถสร้างเงินได้แทนการออกไปฟุ่มเฟือย นอกจากนี้ยิ่งทำงานยิ่งเพิ่มเงินเยอะขึ้น ตำแหน่งหน้าที่มีการเติบโต บางทีอาจจะมีโบนัสปลายปีคอยอยู่ หากยังรู้สึกอยากจะดูของอยู่ ให้ใช้วิธีเลือกของเก่าเอามามิกซ์แอนด์แมตช์ ไว้เป็นกิจกรรมคลายเหงาของสาวชอบแต่งตัวแทน
คิดการใหญ่ไม่ฟุ่มเฟือย การ คิดการใหญ่เป็นสิ่งที่ดี เพราะหมายถึงคุณจะต้องมีวินัยในการสะสมเงินให้ได้จำนวนมากพอสมควร เพื่อเก็บไว้ซื้อของที่อยากได้จริงๆ ไม่ใช่ของกระจุกกระจิกราคาถูกที่ใช้ 3 ทีก็เจ๊ง ลองเก็บตังค์ซื้อกระเป๋าหรือรองเท้าแบรนด์เนมดูสิ เพราะของพวกนี้ใช้ทนใช้นาน ดูแล้วคุ้มค่ากว่าการซื้อบ่อยๆ แต่ของไม่มีคุณภาพกว่ากันเยอะ
ไม่พกเงินและบัตรเต็มกระเป๋า วิธี ไม่พกเงินเยอะๆ จะทำให้คุณจำกัดการใช้จ่ายได้อย่างดี รวมทั้งงดใช้เงินอนาคตของบัตรเครดิต แม้ว่าจะมีแต้มสะสมล่อตาล่อใจเท่าไรก็ตาม พกเพียงแค่ 1-2 ใบ ไว้ยามฉุกเฉินก็พอแล้ว
อย่าใช้บัตรแบบผ่อนของหลายใบเกินนะคะ เพราะคุณจะอยู่ในวังวนของความเป็นหนี้ พยายามใช้ให้พอดี แบบที่คุณจะจ่ายได้ ไม่เดือนร้อน

เกร็ดน่ารู้คู่บ้าน น้ำผึ้ง… แก้ท้องเสีย



เกร็ดน่ารู้คู่บ้าน น้ำผึ้ง… แก้ท้องเสีย
บอกเพื่อนด้วย Link:
หมวด: ความรู้ทั่วไป, ความรู้รอบตัว, รู้ไว้ใช่ว่า, บทความ, บทความดีๆ, เคล็ดลับ, เรื่องน่ารู้, เกร็ดความรู้, แม่บ้าน
จิบน้ำผึ้งสด ประมาณ 2-3 โต๊ะ สักพักอาการท้องเสียก็จะหาย

การที่น้ำผึ้งมีส่วนช่วยในการรักษาโรคท้องเสียนั้น ก็เพราะโรคท้องเสียเกิด จากเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ที่เข้าไปแพร่กระจายในกระเพาะอาหารของมนุษย์ แต่เมื่อกินน้ำผึ้งเข้าไป ความเข้มข้นของน้ำผึ้ง จะไปดึงน้ำออกจากตัวแบคทีเรียและทำให้แบคทีเรียตาย

..เก็บมาฝาก… หากมีบาดแผลเกิดขึ้น ถ้าล้างบาดแผลให้สะอาดแล้วใช้น้ำผึ้งทาที่บาดแผล น้ำผึ้งจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและทำให้แผลไม่เกิดอาการอักเสบ
1.ไม่รู้จักตนเอง
เพราะไม่รักตัวเอง จึงไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง
เพราะไม่รู้ศักยภาพของตัวเอง จึงไม่มีจุดยืนของตัวเอง
2.ไม่เข้าใจคนอื่น
เพราะ ไม่เปิดใจ จึงไม่เข้าใจความแตกต่าง
เพราะไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา จึงไม่ได้เอาคนอื่นมาเป็นคติสอนใจ
3.ไม่มีเป้าหมาย
เพราะขาดความเชื่อศรัทธา จึงขาดแรงผลักดัน
เพราะไม่มีแรงบันดาลใจ จึงขาดแรงจูงใจ
เพราะยังไม่เจอปัญหา จึงขาดไฟ
เพราะยังไม่มีModel จึงขาดVistion เพราะไม่มีจินตนาการ จึงขาดความรู้ เพราะไม่มีสติ จึงขาดปัญญา
4.ยังไม่ได้ลงมือทำ

เพราะเพิกเฉย จึงพลัดวันประกันพรุ่ง
เพราะกลัว จึงไม่กล้าตัดสินใจ
เพราะรอ จึงยังไม่พร้อม
เพราะขี้เกียจ จึงงานเยอะ
เพราะยังไม่อยากทำ จึงไม่บริหารเวลา
เพราะไม่ยอมเปลี่ยน จึงไม่ลงมือทำ
5.ยังไม่ได้ประเมินผล

เพราะยังไม่ได้ใส่ใจ เลยไม่รู้ปัญหา
เพราะยังไม่ได้ทบทวน เลยไม่ได้ใคร่ครวญให้ดี
เพราะมัวแต่เพ่งโทษตนเอง เลยยึดติด
เพราะไม่มีทางออก ก็เลยต้องออกนอกเส้นทางบ่อยๆ
เพราะไม่ได้แก้ไข จึงไม่ได้ปรับปรับปรุง
เพราะสักแต่ว่าทำ เลยไม่ทำให้ดีกว่าเดิม
เพราะเผลอ จึงประมาท
6.ยังไม่มีคนคอยชี้ทาง
ไม่มีครู ไม่มีเพื่อนร่วมทาง ไม่มีคนเกื้อหนุน ไม่มีคนช่วยเหลือ
7.คุณรู้แก่ใจ….(ปลายทาง)

…. อย่าลืมนะคะ ไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จ ที่มัวแต่นั่งคิด โดยไม่ลงมือทำ ^-^

วิธีพักสายตา สักนิด ระหว่างการทำงาน

-มองออกไปที่ด้านนอกหน้าต่าง หรือมองออกไปไกลๆ จากงานที่อยู่ตรงหน้าเท่าที่จะสามารถทำได้
-วัตถุที่คุณมองนั้นควรอยู่ห่างจากคุณอย่างน้อย 20 ฟุต
-เคลื่อนสายตามองไปรอบๆ และมองไปที่สิ่งอื่นๆ หรือวัตถุอื่นๆ บ้าง
-ย้อนกลับมามองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
-ทำซ้ำตามวิธีนี้บ่อยๆ ในวันทำงานของคุณ
การ ปิดฝ่ามือ (สำหรับการพักสายตา)
-ทำมือเป็นลักษณะรูปถ้วยปิดรอบดวงตา วางพักมือบนโหนกแก้ม (หลีกเลี่ยงการกดลงบริเวณลูกตา)
-ประสานมือไขว้ไว้เหนือดั้งจมูกเพื่อบังแสงสว่าง
-หลับตาลงประมาณ 15 วินาที แล้วให้หายใจเข้า หายใจออกลึกๆ
-เปิดฝ่ามือ แล้วลืมตาขึ้น