พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (ฝรั่งเศส: Musée du Louvre) หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะอันตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งได้เปิดให้สาธารณะชนเข้าชมได้เมื่อปี พ.ศ. 2336 (ค.ศ. 1793) มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์คาเปเทียง ตัวอาคารเดิมทีเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น ภาพเขียนโมนาลิซา, The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่ง Antioch ในปี พ.ศ. 2549 พิพิธภัณฑ์ลูฟร์มีผู้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวน 8.3 ล้านคน ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก[ต้องการอ้างอิง] และยังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในกรุงปารีส
พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน
พีระมิดลูฟร์ (อังกฤษ: Louvre Pyramid) เป็นพีระมิดที่สร้างขึ้นจากกระจกและโลหะ มีพีระมิดขนาดเล็กกว่า 3 หลังตั้งอยู่โดยรอบ ตั้งอยู่ที่ลานหน้าพิพิธภัณฑสถานลูฟร์ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทำหน้าที่เป็นทางเข้าหลักของพิพิธภัณฑ์ สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2532 และกลายเป็นหนึ่งในจุดสังเกตของกรุงปารีส
ภาพเขียนโมนาลิซา
การก่อสร้างพีระมิดมอบหมายโดยฟรองซัว มิตแตร์รองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. 2527 ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป่ย สถาปนิกที่เคยรับผิดชอบการออกแบบ Miho Museum ที่ญี่ปุ่น โครงสร้างพีระมิดนี้สร้างขึ้นจากแผ่นกระจกทั้งหลัง มีความสูง 20.6เมตร ฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีความยาวด้านละ 35 เมตร ประกอบขึ้นจากแผ่นกระจกรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน 603 แผ่น และแผ่นกระจกรูปสามเหลี่ยม 70 แผ่น
พีระมิดและโถงทางเข้าที่อยู่ข้างใต้ สร้างขึ้นเนื่องจากทางเข้าเดิมของลูฟร์ไม่สามารถรองรับจำนวนผู้มาเยือนที่มีมากในแต่ละวันได้อีกแล้ว ผู้มาเยือนที่เข้าจากพีระมิดจะลงไปโถงทางเข้ากว้างขวาง แล้วกลับขึ้นไปยังอาคารหลักของลูฟร์ พิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่งได้นำแนวคิดนี้ไปใช้ เช่น Museum of Science and Industry ในชิคาโก การก่อสร้างพีระมิดและโถงทางเข้าใต้ดินดำเนินการโดย Dumez
กระจก 666 แผ่น: ตำนานเมือง
พีระมิดล้อมรอบด้วยอาคารของลูฟร์บางคนกล่าวอ้างว่าแผ่นกระจกบนพิระมิดลูฟร์มีทั้งหมด 666 แผ่น ซึ่งเป็น "number of the beast" ที่มักจะถูกนำไปเชื่อมโยงกับซาตาน ผู้สนใจด้านประวัติศาสตร์จำนวนมาก ตัวอย่างเช่น หนังสือของ Dominique Stezepfandt ที่มีชื่อว่า François Mitterrand, Grand Architecte de l'Univers ได้กล่าวไว้ว่า "พีระมิดถูกอุทิศให้แก่พลังที่เล่ากันว่าเป็น Beast ใน พระคัมภีร์วิวรณ์ (...) โครงสร้างทั้งหลังมีรากฐานอยู่บนเลข 6"
เรื่องราวของกระจก 666 แผ่นเริ่มต้นขึ้นเมื่อราวทศวรรษที่ 1980 (พ.ศ. 2523-2532) โดยแผ่นพับโฆษณาอย่างเป็นทางการที่ตีพิมพ์ระหว่างการก่อสร้างได้กล่าวอ้างถึงตัวเลขนี้ถึงสองครั้ง แต่หน้าก่อนๆในแผ่นพับกล่าวไว้ว่ากระจกมี 673 แผ่น ตัวเลข 666 ยังถูกกล่าวถึงในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ อย่างไรก็ตาม พิพิธภัณฑสถานลูฟร์ได้แถลงว่า พีระมิดประกอบขึ้นจากแผ่นกระจก 673 แผ่น (รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน 603 แผ่น และรูปสามเหลี่ยม 70 แผ่น) [4] มีผู้พยายามนับจำนวนแผ่นกระจกบนพีระมิดอยู่หลายครั้ง โดยแต่ละครั้งจะนับได้จำนวนที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่จะมากกว่า 666 แผ่นทุกครั้ง
ข่าวลือได้กลับมาอีกครั้งใน พ.ศ. 2546 เมื่อนวนิยาย The Da Vinci Code ของแดน บราวน์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ โดยที่ตัวเอกของเรื่องครุ่นคิดว่า "พีระมิดหลังนี้สร้างขึ้นด้วยแผ่นกระจก 666 แผ่นพอดี ตามความต้องการของประธานาธิบดีมิตแตร์รองด์ ซึ่งกลายเป็นหัวข้อร้อนท่ามกลางผู้สนใจทฤษฎีสมคบคิดที่กล่าวอ้างว่า 666 เป็นตัวเลขของซาตาน" อย่างไรก็ตาม David A. Shugarts ได้รายงานว่า จากคำกล่าวของโฆษกประจำสำนักงานของไอ. เอ็ม. เป่ย ประธานาธิบดีฝรั่งเศสไม่เคยระบุจำนวนแผ่นกระจกที่ต้องการให้ใช้ในการก่อสร้างพีระมิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น