ม้าที่เล็กที่สุดในโลก สูง43.18เซนติเมตร(17นิ้ว)
ม้าที่เล็กที่สุดเกิดจากการฝีมือการผสมเทียมของ Paul และKay Goessling ผู้เชี่ยวชาญในการผสมพันธุ์ม้าพันธุ์เล็ก และตั้งชื่อสุดเก๋ให้ม้าตัวนี้ว่า Thumbelina ปัจจุบันมีThumbelinaมีอายุ5ขวบ น้ำหนัก27.21กิโลกรัม และสูงเพียง17นิ่วครองแชมป์ม้าที่ตัวเล็กที่สุดในโลก
แมวที่ตัวเล็กที่สุดในโลก มีความสูง15.5เซินตเมตร(6.1นิ้ว)และยาว49เซนติเมตร]
พบกับMr.Peeblesอายุ2ขวบ หนัก3ปอนด์ จากCentral Illinois แมวที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากGuinness Book of World Recordsในปี2004ว่าเป็นแมวที่เล็กที่สุดในโลก
วัวที่เล็กที่สุดในโลก สูง81เซนติเมตร(31นิ้ว)
พันธุ์Indian zebuที่มีชื่อเรียกว่าVechur cow ค่าเฉลี่ยความสูงอยู่ที่31-35นิ้ว(81-91เซนติเมตร)ภาพถ่ายนี้เปรียบเทียบวัวที่ตัวเล็กมีอายุ16ปีกับวัวธรรมดาที่มีอายุแค่6ปี
สุนัขที่ตัวเล็กที่สุดในโลก สูง12.4เซนติเมตร(4.9นิ้ว)
ผู้ท้าชิงรายนี้มีน้ำหนักเพียง1.4ปอนด์สูง4.6นิ้ว สายเลือดชิวาว่า จากเมืองCharlton(Massachusetts,USA) มีนามว่า Ducky และได้กุมตำแหน่งสุนัขที่เล็กที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ของGuinness World Recordไว้
วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เครื่องเทศและสมุนไพร "สรรพคุณมากมาย"
เครื่องเทศและสมุนไพรมีสรรพคุณเป็นยาที่ช่วยรักษาโรคต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย ถึงอยู่ที่แต่ละคนจะนำไปใช้กันค่ะ และไม่ใช่เพียงเท่านั้นใน เครื่องเทศและสมุนไพร นั้นยังจัดเป็นสิ่งที่ช่วยในการปรุงอาหารได้รสเยี่ยมอีกต่างหาก ฉะนั้นแล้วเมื่อเราจะปรุงอาหารทั้งทีก็อย่าลืมที่ลองนำ เครื่องเทศและสมุนไพร ไปใส่อาหารตอนปรุงรสดูกับเค้ากันบ้างนะจ๊ะ และวันนี้เรามี 9 เครื่องเทศและสมุนไพรไทย ที่มีประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็น ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันมะเร็ง และช่วยรักษาและเยี่ยวยาโรคต่าง ๆ ได้อีกค่ะ
9 เครื่องเทศและสมุนไพรไทย
1. พริกแดงแห้ง สารประกอบแคปไซซินที่ทำให้เกิดความเผ็ดร้อนในพริกอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งผิวหนังและลำไส้ใหญ่ การศึกษายังพบด้วยว่ามันทำให้คนเรากินน้อยลง
2. ลูกจันทน์ มีสารประกอบที่ช่วยต่อต้านแบคทีเรียและช่วยต่อสู้เชื้ออีโคไลและแซลโมเนลล่า (ที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียหรือท้องร่วง)
3. ยี่หร่า เป็นแอนตี้ออกซิแดนต์และสารต้านอาการอักเสบที่ทรงประสิทธิภาพที่อาจช่วยหยุดการเจริญเติบโตของเนื้อร้ายได้
4. ขมิ้น ประกอบด้วยสารที่เรียกว่าเคอร์คูมิน (Curcumin) ซึ่งอาจช่วยหยุดยั้งมะเร็งไม่ให้แพร่กระจายได้และช่วยป้องกันโรคเบาหวานประเภทที่ 2
5. อบเชย แค่กินวันละ 1/4-1/2 ช้อนชา สามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอไรต์ได้ในคนที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 2
6. ขิง สามารถระงับอาการคลื่นไส้และอาจบรรเทาอาการจุกเสียดหน้าอก (จากโรคกรดไหลย้อน) และอาการบวมน้ำ
7. เซจ (Sage) เครื่องเทศชนิดนี้ช่วยลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตและโดยทั่วไปช่วยลดความเสี่ยงของคุณในการเป็นโรคหัวใจได้
8. สะระแหน่ อุดมด้วยวิตามินซีและเอ สามารถช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยและอาการระคายเคืองในระบบขับถ่าย
9. กระเทียม ทำลายเซลล์มะเร็งและอาจขัดขวางการเผาผลาญพลังงานของเซลล์เนื้อร้าย คาเรน คอลลินส์ นักโภชนาการที่ปรึกษาของ American Institute for Cancer Research บอกเช่นนั้น และการศึกษาบ่งชี้ว่าการกินกระเทียมสองหัวต่อสัปดาห์ให้ประโยชน์ในการป้องกันมะเร็งได้ โดยหลังจากสับกระเทียมแล้วให้ทิ้งไว้สัก 10-15 นาทีก่อนนำไปปรุงอาหาร เพื่อให้สารเคมีที่มีประโยชน์ซึมซาบออกมา
9 เครื่องเทศและสมุนไพรไทย
1. พริกแดงแห้ง สารประกอบแคปไซซินที่ทำให้เกิดความเผ็ดร้อนในพริกอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งผิวหนังและลำไส้ใหญ่ การศึกษายังพบด้วยว่ามันทำให้คนเรากินน้อยลง
2. ลูกจันทน์ มีสารประกอบที่ช่วยต่อต้านแบคทีเรียและช่วยต่อสู้เชื้ออีโคไลและแซลโมเนลล่า (ที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียหรือท้องร่วง)
3. ยี่หร่า เป็นแอนตี้ออกซิแดนต์และสารต้านอาการอักเสบที่ทรงประสิทธิภาพที่อาจช่วยหยุดการเจริญเติบโตของเนื้อร้ายได้
4. ขมิ้น ประกอบด้วยสารที่เรียกว่าเคอร์คูมิน (Curcumin) ซึ่งอาจช่วยหยุดยั้งมะเร็งไม่ให้แพร่กระจายได้และช่วยป้องกันโรคเบาหวานประเภทที่ 2
5. อบเชย แค่กินวันละ 1/4-1/2 ช้อนชา สามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอไรต์ได้ในคนที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 2
6. ขิง สามารถระงับอาการคลื่นไส้และอาจบรรเทาอาการจุกเสียดหน้าอก (จากโรคกรดไหลย้อน) และอาการบวมน้ำ
7. เซจ (Sage) เครื่องเทศชนิดนี้ช่วยลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตและโดยทั่วไปช่วยลดความเสี่ยงของคุณในการเป็นโรคหัวใจได้
8. สะระแหน่ อุดมด้วยวิตามินซีและเอ สามารถช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยและอาการระคายเคืองในระบบขับถ่าย
9. กระเทียม ทำลายเซลล์มะเร็งและอาจขัดขวางการเผาผลาญพลังงานของเซลล์เนื้อร้าย คาเรน คอลลินส์ นักโภชนาการที่ปรึกษาของ American Institute for Cancer Research บอกเช่นนั้น และการศึกษาบ่งชี้ว่าการกินกระเทียมสองหัวต่อสัปดาห์ให้ประโยชน์ในการป้องกันมะเร็งได้ โดยหลังจากสับกระเทียมแล้วให้ทิ้งไว้สัก 10-15 นาทีก่อนนำไปปรุงอาหาร เพื่อให้สารเคมีที่มีประโยชน์ซึมซาบออกมา
วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
15 อาหารต้าน ภูมิแพ้
ร้อยละ 70ของคนบนโลกนี้มีอาการภูมิแพ้ ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว คุณเองก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะเรารับมือกับโรคภูมิแพ้ได้ด้วยอาหารการกิน โดยเฉพาะอาหารที่มีสารฟลาโวนอยด์เควอเซทิน (quercetin)
ดร.แอสทริด ปูจารี ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรรักษาโรคเคยให้สัมภาษณ์ไว้ใน The Seattle Times ว่า เควอเซทินซึ่งเป็นสารต้านอาการแพ้และลดการอักเสบนั้น มีฤทธิ์ควบคุมการปล่อยสารก่อภูมิแพ้ได้ด้วย จึงลดโอกาสเกิดโรคได้อย่างชะงัด
นี่คือ 15ผักผลไม้ที่คุณจะพบสารเควอเซทินมากที่สุดตามลำดับค่ะ หัวหอม ผักโขม แอปเปิล องุ่น แครอท บร็อกโคลี บลูเบอร์รี ผักกาดหอม ลูกพลัม แบล็คเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี พริกหวาน สตรอว์เบอร์รี่ มะเขือเทศ และลูกแพร์ เท่านี้ก็คลายกังวลเรื่องภูมิแพ้ไปได้เยอะเลยล่ะ
ดร.แอสทริด ปูจารี ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรรักษาโรคเคยให้สัมภาษณ์ไว้ใน The Seattle Times ว่า เควอเซทินซึ่งเป็นสารต้านอาการแพ้และลดการอักเสบนั้น มีฤทธิ์ควบคุมการปล่อยสารก่อภูมิแพ้ได้ด้วย จึงลดโอกาสเกิดโรคได้อย่างชะงัด
นี่คือ 15ผักผลไม้ที่คุณจะพบสารเควอเซทินมากที่สุดตามลำดับค่ะ หัวหอม ผักโขม แอปเปิล องุ่น แครอท บร็อกโคลี บลูเบอร์รี ผักกาดหอม ลูกพลัม แบล็คเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี พริกหวาน สตรอว์เบอร์รี่ มะเขือเทศ และลูกแพร์ เท่านี้ก็คลายกังวลเรื่องภูมิแพ้ไปได้เยอะเลยล่ะ
วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ล้างพิษ ด้วย ชาเขียว
ชาเขียว เครื่องดื่มยอดฮิตที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณเป็นยา บำบัดมายาวนานนับพันๆ ปี เพราะนอกจากชาเขียวจะเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพกายแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพใจอีกด้วย และคุณสมบัติที่โดดเด่นของชาเขียวอีกอย่างหนึ่งก็คือ การช่วยล้างพิษออกจากร่างกายได้ลึกถึงระดับเซลล์ ด้วยสาร Polyphenols ในชาเขียวสามารถออกฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์ที่ทำหน้าที่ขจัดสารพิษในตับ (Detoxifying Enzyme) ช่วยยับยั้งขบวนการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง และพัฒนาการทำงานองแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้
นอกจากนี้ชาเขียวยังสามารถขจัดอนุมูลอิสระช่วยให้หลอดเลือดและหัวใจทำงานดีขึ้น ผิวพรรณสดใสและสนับสนุนการทำงานของเอ็นไซม์ในตับซึ่งเป็นเหมือนโรงงานขจัด สารพิษจากอาหารแห่งเดียวของร่างกาย จึงนับว่าการบริโภคชาเขียวเป็นการล้างพิษทางกายภาพที่ครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุดค่ะ
นอกจากนี้ชาเขียวยังสามารถขจัดอนุมูลอิสระช่วยให้หลอดเลือดและหัวใจทำงานดีขึ้น ผิวพรรณสดใสและสนับสนุนการทำงานของเอ็นไซม์ในตับซึ่งเป็นเหมือนโรงงานขจัด สารพิษจากอาหารแห่งเดียวของร่างกาย จึงนับว่าการบริโภคชาเขียวเป็นการล้างพิษทางกายภาพที่ครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุดค่ะ
ผลที่ได้รับจากการล้างพิษด้วยชาเขียว
ระบบขับถ่ายของเราจะค่อยๆ ดีขึ้นปัญหาท้องผูกและอาการร้อนในลดลง
โอกาสเกิดโรคมะเร็งในทางเดินอาหารลดน้อยลงกว่าผู้ที่ไม่ได้บริโภคชาเขียว
ผิวพรรณจะค่อยๆ สดใส ไม่หมองคล้ำ ระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น
ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคความจำเสื่อม
ตับมีสุขภาพดี
ที่สำคัญที่สุดยังห่างไกลจากโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่างๆ ได้อีกด้วย
ระบบขับถ่ายของเราจะค่อยๆ ดีขึ้นปัญหาท้องผูกและอาการร้อนในลดลง
โอกาสเกิดโรคมะเร็งในทางเดินอาหารลดน้อยลงกว่าผู้ที่ไม่ได้บริโภคชาเขียว
ผิวพรรณจะค่อยๆ สดใส ไม่หมองคล้ำ ระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น
ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคความจำเสื่อม
ตับมีสุขภาพดี
ที่สำคัญที่สุดยังห่างไกลจากโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่างๆ ได้อีกด้วย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)