หน้าเว็บ

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

เคท มิดเดิลตัน เจ้าหญิงเเห่งราชวงค์อังกฤษ



ข่าวการเตรียมอภิเษกสมรสกับเจ้าชายวิลเลียม นอกจากจะทำให้ เคท มิดเดิลตัน กลายเป็นสมาชิกคนล่าสุดของราชวงศ์วินด์เซอร์แห่งอังกฤษแล้ว ยังถูกจับตามองว่าจะกลายเป็นผู้นำโลกแฟชั่นคนใหม่ ซึ่งครั้งหนึ่ง เจ้าหญิงไดอาน่า เคยได้รับการยกย่องมาก่อน

เคท มิดเดิลตัน พระสหายคนสนิทของเจ้าชายวิลเลียมที่คบหากันมากว่า 7 ปี ได้รับยกย่องจากสื่อถึงรสนิยมอันเป็นเลิศในการแต่งกายด้วยภาพลักษณ์อันเป็นธรรมชาติ แต่แฝงด้วยสไตล์ทุกครั้งที่ออกสื่อ กระทั่งการประกาศข่าวการหมั้น ทำให้ผู้เชี่ยวชาญวงการแฟชั่นต่างพร้อมใจกันยกให้ มิดเดิลตัน เป็นผู้ที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำกระแสของวงการแฟชั่นคนใหม่ เหมือนครั้งที่เจ้าหญิงไดอาน่า พระมารดาของเจ้าชายวิลเลียมเคยได้รับการยกย่องจากวงการแฟชั่นโลกมาก่อน

ด้วยสไตล์ที่สมบูรณ์แบบของ มิดเดิลตัน ไม่เพียงเห็นได้จากงานที่เป็นทางการ แต่บ่อยครั้งในงานอย่างการแข่งขันกีฬาขี่ม้าหรือโปโล มิดเดิลตัน ได้กลายเป็นจุดสนใจของคนในงานด้วยชุดที่เรียบง่ายอย่างหมวกปีกกว้างและกางเกงยีนส์เท่านั้น ทำให้ที่ผ่านมามีการตั้งเว็บบล็อกเพื่ออุทิศให้กับแนวทางการแต่งตัวของเธอมาแล้ว แม้จะเกิดมาในครอบครัวที่มั่งคั่งแต่ "มิดเดิลตัน" ชื่นชอบที่จะหาซื้อเสื้อผ้าจากร้านค้าทั่วไป เช่นครั้งที่ซื้อชุดราคา 40 ปอนด์จากร้าน Topshop ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อ ทำให้ 24 ชั่วโมงต่อมาชุดแบบเดียวกันนั้นทุกขนาดถูกกว้านซื้อจนหมดอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการรักษาภาพลักษณ์อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่าจะในงานปาร์ตี้หรือบางครั้งที่ผิดพลาดในการเลือกชุดออกงานก็ผ่านมาได้ทุกครั้งด้วยอารมณ์ขันและเสน่ห์ที่เหลือเฟือ



จากนี้ทั่วโลกคงจับตามอง มิดเดิลตัน ว่าจะเลือกดีไซเนอร์คนไหนมาออกแบบชุดที่จะใช้ในพิธีอภิเษกสมรส ซึ่งผู้สัดทัดกรณีเชื่อว่าชุดที่จะใช้ในพิธีอภิเษกสมรสที่สำคัญที่สุดของอังกฤษในรอบ 3 ทศวรรษนี้จะเป็นผลงานของนักออกแบบชาวอังกฤษ ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจจะเป็น อแมนด้า วาเคลีย์ หรือ บรูซ โอลฟีลด์ ผู้ที่เคยทำให้ชุดอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงไดอาน่าเมื่อปี 1981 กลายเป็นชุดแต่งงานที่ถูกเจ้าสาวทั่วโลกเลียนแบบมากที่สุดในประวัติศาสตร์มาแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

วันคุ้มครองโลก (Earth Day)




วันคุ้มครองโลกถือกำเนิดในสหรัฐอเมริกาเมื่อ 27 ปีก่อน ในวันที่ 22 เมษายน 2513 นักอนุรักษ์ธรรมชาติกลุ่มหนึ่งได้จัดให้มีการแสดงพลังครั้งใหญ่ เพื่อปลุกเร้าจิตสำนึกเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับวันยิ่งถูกมนุษย์ทำลาย ในการแสดงพลังครั้งนั้นมีผู้เข้าร่วมกว่า 20 ล้านคนและปรากฏขึ้นตามเมืองใหญ่ ๆ เกือบทั้งสหรัฐ

หลังจากนั้นความห่วงใยปัญหาสภาพแวดล้อมของสหรัฐก็เพิ่มพูนขึ้น มีการออกกฎหมายควบคุมการกระทำที่สร้างความเสียหายให้กับธรรมชาติ สำหรับประเทศไทยเริ่มพูดถึงวันคุ้มครองโลกครั้งแรก เมื่อปี 2533 ถือเป็นการเริ่มต้นของสังคมไทยยุคเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะหลังจากสืบ นาคะเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งกระทำอัตวินิบาตกรรม และเมื่ออาจารย์และนักศึกษาร่วมกัน 16สถาบันได้จัดงานวันคุ้มครองโลกขึ้นเพื่อรณรงค์ให้คนไทยเห็นความสำคัญของป่าอนุรักษ์ และตระหนักถึงวิกฤตการทำลายสัตว์ป่าและป่าไม้ประเทศไทย ยังมีการจัดงานเพื่อหาทุนเข้ามูลนิธิสืบนาคะเสถียร เพื่อใช้ในการปกป้องรักษาผืนป่า ที่เป็นมรดกของโลกอีกด้วย

ความเป็นมาของวันคุ้มครองโลก
ชนวนความคิดเรื่องวันคุ้มครองโลกเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 โดยสมาชิกวุฒิสภา เกย์ลอร์ด เนลสัน (Senator Gaylord Nelson) ซึ่งต่อมาก็เป็นผู้ที่ก่อตั้งวันคุ้มครองโลกได้สำเร็จ

ก่อนที่ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมจะเข้าไปสู่ความสนใจของประชาคมโลก พลเมืองโลกระดับรากหญ้า ได้ตระหนักถึงปัญหาความเสื่อมโทรมทางสิ่งแวดล้อม ที่ปรากฏให้เห็นโดยทั่วไปอย่างเด่นชัดเป็นอย่างดี ในทางกลับกันนักการเมืองระดับประเทศกลับมองไม่เห็น ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า หัวข้อเรื่องสิ่งแวดล้อมดังกล่าว จะไม่เคยได้รับการบรรจุเข้าไปในวาระการประชุมทางการเมืองระดับชาติเลย

อย่างไรก็ตาม แนวคิดเรื่องการกำหนดให้มีวันคุ้มครองโลกขึ้นก็มีความผันแปรเรื่อยมา จากครั้งแรกที่มีการนำเสนอตลอดระยะเวลา 7 ปีของการรณรงค์ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2512 วุฒิสมาชิกเนลสัน ได้ตัดสินใจจัดให้มีการชุมนุมประชากรระดับรากหญ้าทั่วประเทศขึ้น เพื่อแสดงความคิดเห็นในปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม และได้เชิญชวนทุกๆ คนให้เข้าร่วมในการชุมนุมดังกล่าว ผลจากความห่วงใยเรื่องวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่ของคนในสังคมขณะนั้น ทำให้กลุ่มคนจำนวนมากเข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนั้น ซึ่งเป็นที่ปรากฏชัดว่า กิจกรรมชุมนุมดังกล่าวเป็นการนำไปสู่ความสำเร็จอันงดงามของการก่อตั้งวันคุ้มครองโลกขึ้น
ในที่สุด วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2513 “วันคุ้มครองโลก” ก็ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก นิตยสาร อเมริกัน เฮริเทจ (American Heritage Magazine) ฉบับเดือนตุลาคม พ.ศ. 2536 ได้หวนรำลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “เป็นเหตุการณ์ที่โดดเด่นที่สุดเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์


Earth Day

Earth Day is a day that is intended to inspire awareness and appreciation for the Earth's natural environment. Earth Day was founded by United States Senator Gaylord Nelson as an environmental teach-in first held on April 22, 1970. While this first Earth Day was focused on the United States, an organization launched by Denis Hayes, who was the original national coordinator in 1970, took it international in 1990 and organized events in 141 nations. Earth Day is now coordinated globally by the Earth Day Network, and is celebrated in more than 175 countries every year. Numerous communities celebrate Earth Week, an entire week of activities focused on environmental issues. In 2009, the United Nations designated April 22 International Mother Earth Day.

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

ข้าวโอ๊ต กับคุณประโยชน์ที่มากกว่าความอร่อย



ข้าวโอ๊ต ข้าวโอ๊ต และข้าวโอ๊ต คุ้นๆ กันใช่ไหมคะกับคำๆ นี้ ที่มักจะเป็นส่วนผสมของอาหารธัญพืชต่างๆ ที่มีจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป แต่ถ้าจะถามว่าข้าวโอ๊ต รูปร่างหน้าตาเป็นแบบใด หรือมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง

หลายคนอาจจะยังสงสัย และนึกภาพกันไม่ออก วันนี้เราจะมาเจาะลึกเคล็ดลับความอร่อยของข้าวโอ๊ต พร้อมคุณประโยชน์ต่อร่างกายที่จะกลายมาเป็นเมนูอร่อยๆ มื้อต่อไปของคุณสาวๆ แน่นอนค่ะ

เหตุผลดีๆ ที่ข้าวโอ๊ตมีประโยชน์
ข้าวโอ๊ตมักนิยมนำมารับประทานเป็นอาหารเช้า เพราะเป็นธัญพืชที่ให้พลังงานสูง แต่ให้ไขมันที่ต่ำ มีวิตามินและเกลือแร่ที่ร่างกายสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างทันที และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ข้าวโอ๊ตจึงนับเป็น

อาหารที่ทำให้เราได้รับสารอาหารที่หลากหลาย มีเส้นใยมาก ทำให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะลำไส้เราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดอาการท้องผูก จึงดูดซึมน้ำตาลไขมันของเสียต่างๆ ได้ดี ช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ทำให้เรารู้สึกอิ่มนาน ไม่หิวระหว่างมื้อบ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีสารประกอบที่สำคัญคือ เบต้ากลูแคน เป็นเส้นใยอาหารที่สามารถละลายในน้ำได้ดี มีคุณสมบัติคอยดูดซับคอเลสตอรอลในลำไส้เล็ก และปล่อยเป็นของเสียออกจากร่างกาย การรับประทานข้าวโอ๊ตจึงช่วยในการลดคอเลสตอรอล ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และโรคหัวใจได้ผลดี ซึ่งองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) รับรองผลการศึกษาวิจัยว่า หากร่างกายได้รับเบเต้ากลูแคนอย่างน้อย 3 กรัมต่อวันจะสามารถช่วยลดปัญหาคอเลสเตอรอลได้ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอล และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

ข้าวโอ๊ต กินอย่างไรได้ประโยชน์?
เรามักนิยมนำข้าวโอ๊ตมารับประทานเป็นอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน ข้าวโอ๊ต 100 กรัม ให้พลังงาน 390 กิโลแคลอรี (1,630 กิโลจูล) คาร์โบไฮเดรต 66 กรัม ไขมัน 7 กรัม โปรตีน 17 กรัม วิตามินบี 5 1.3 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 5 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 177 มิลลิกรัม และกากใยไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ 4 กรัม เราสามารถนำข้าวโอ๊ตมาปรุงเป็นหลากหลายเมนูอร่อยได้ไม่ซ้ำ สามารถรับประมานได้ตลอด และรวดเร็ว เหมาะกับวิถีชีวิตชาวเมืองที่รีบเร่งของทุกวันนี้ด้วยค่ะ สบายอารมณ์มีสูตรข้าวโอ๊ตอร่อยๆ มานำเสนอ เผื่อสาวๆ อยากจะทำรับประทานที่บ้านบ้างก็ไม่ว่ากันค่ะ

• ตอนเช้าๆ ลองซื้อน้ำเต้าหู้เจ้าอร่อย หรือนมสดสักแก้ว แล้วผสมข้าวโอ๊ตลงไป (หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปค่ะ) พร้อมลูกเกด ผลไม้สดต่างๆ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ถั่วลิสง ช่วยเพิ่มพลังให้เช้านี้อย่างสดใส อิ่มท้องอยู่นานไปจนมื้อเที่ยงเลยค่ะ

• โจ๊กข้าวโอ๊ตร้อนๆ นำข้าวมาต้มให้เปื่อยจนกลายเป็นโจ๊ก แล้วปรุงน้ำซุปให้ได้รสชาติตามต้องการ จากนั้นเติมข้าวโอ๊ตลงไป ตามด้วยหมูสับ และผักตามชอบสับละเอียด ก็จะได้โจ๊กข้าวโอ๊ตร้อนๆ มากคุณค่า

ข้าวโอ๊ตกับความงาม
นอกจากนี้ข้าวโอ๊ตยังสามารถนำมาใช้บำรุงความสวยความงามของสาวๆ กันได้อีกมากมาย นำมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ เช่น แชมพู โลชั่นทาผิว สบู่ข้าวโอ๊ต เพราะข้าวโอ๊ตมีวิตามินอี เป็นกลีเซอรีนตามธรรมชาติ คงความชุ่มชื่นของผิวได้ดี นอกจากนี้เรายังสามารถนำข้าวโอ๊ตมาผสมกับน้ำผึ้ง แล้วนำมาสครับผิวได้อีกด้วยค่ะ หรือสามารถนำมาผสมน้ำอาบ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ขึ้น แต่ไม่มัน เพราะมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยดูดซับความมันออกจากผิวได้

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

ครบรอบ 50 ปี การเดินทางของมนุษย์คนเเรกสู่อวกาศ


ยูริ กาการิน มีชื่อเต็มว่า ยูริ อะเลคเสเยวิช กาการิน เกิดที่เมืองกชาทสค์ในสหภาพโซเวียต ในวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2476 โดยเป็นบุตรของช่างไม้ในระบบนารวม ซึ่งเป็นระบบของประเทสที่เป็นคอมมิวนิสต์ใช้ในช่วงนั้น ในวัยเด็กเขาเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนการค้าใกล้กรุงมอสโก เพื่อเป็นช่างปั้น หลังจากจบการศึกษาเขาได้เข้าศึกษาต่อที่วิทบาลัยอุตสาหกรรมที่เมืองซาราตอฟ เเละในขณะเดียวกันก็เข้ารับการอบรมทางด้านการบินไปด้วยควบคู่กัน เมื่อเจ็บหลักสูตรเเล้วก็ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนนายเรืออากาสโซเวียต ที่ โอเรนบูร์ก เเละสำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ.2500

หลังจากจบการศึกษาเเล้ว เขาได้เข้ารับราชการในกองทัพอากาศโซเวียตเเละเริ่มขับเครื่องบิน MIG-15 เเละที่นี่เขาได้พบกับ Valentina Goryacheva เเละเเต่งงานกับเธอในปี ค.ศ. 1957 หลังจากนั้นเขาได้รับการคัดเลือกเข้าสู่โครงการอวกาสของสหภาพโซเวียต ซึ่งในขระนั้นมีการเเข่งัขนกันทางด้านอวกาศกับสหรัฐอเมริกาอย่างหนักหน่วง กาการินต้องผ่านการทดสอบมากมาย จนถึงขั้นสุดท้าย รัฐบาลโซเวียตตัดสินใจเลือกให้เขาเป็นนักบินอวกาศคนเเรกของโซเวียต เพื่อทำการบินสู่อวกาศ ซึ่งหลังจากเขาเสียชีวิตไปเเล้วได้มีรายงานการวิเคราะห์จากสื่อตะวันตกถึงเเรงจูงใจที่เขาได้รับเลือกนั้น เพราะเขามีหน้าตาที่ดีเเละดูเป็นมิตร เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับลัทธิคอมมิวนิสต์
กาการิน บังคับยานวอสตอค 1 (Vostok 1) ที่มีน้ำหนัก 4.75 ตันขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศในวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2504 เมื่อเวลา 9.07 น. เเละทำการโคจรรอบโลก 1 รอบ ซึ่งกินเวลา 1 ชั่วโมง 29 นาที ที่ระดับความสูงมากที่สุดเท่าที่มนุษยชาติเคยไปถึง 187 ไมล์ หรือ 301 กิโลเมตร จากพื้นผิวโลก เเละทำการลงจอดเมื่อเวลา 10.55 น. ในวันเดียวกัน ตามเวลาในรัสเซีย

ผลจากความสำเร็จในการบินครั้งนี้ทำให้ ยูริ กาการิน เเละสหภาพโซเวียต มีชื่อเสียก้องโลก เเละเป็นการประกาศชัยชนะทางด้านอวกาศเหนือสหรัฐอเมริกา เขาได้รับเครื่องประดับเกียรติยศเลนิน และได้ตำแหน่งเป็นวีรบุรุษแห่งสหภาพโซเวียต นอกจากนี้ยังมีการสร้างอนุสรณ์สถานและตั้งชื่อถนนเพื่อเป็นเกียรติแต่กาการินในสถานที่หลายแห่งทั่วประเทศ หลังจากนั้นยูริ กาการิน ก็เดินสายโชวืตัวในประเทศต่าง ๆ มากมายรวมทั้งสหรัฐอเมริกาตามเเผนโฆษณาชวนเชื่อของคอมมิวนิสต์ ซึ่งงประสบผลอย่างดีจากบุคลิกท่าทางเเละน่าตาที่หล่อเหลาเเละเป็นมิตร ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบนิยมของประชาชนในทุกประเทศที่เขาเดินทางไป

หลังจากหมดภารกิจเเล้ว ยูริ กาการิน กลับมาทำงานกับกองทัพอากศสหภาพโซเวียตอีกครั้ง เเต่มีหน้าที่ฝึกนักบินอวกาศของโซเวียตเท่านั้น เเละไม่มีโอกาสกลับไปคุมยานอวกาศอีกเลย เเละในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2511 ผู้พันกาการิน ก็ประสบอุบัติเหตุ เครื่องบินตก ขณะทำการอบรมการบินตามปกติ ใกล้กรุงมอสโก ด้วยวัยเพียง 34 ปี อัฐิของเขาถูกบรรจุไว้ในช่องเก็บในกำเเพงพระราชวังเครมลินอย่างสมเกียรติ เเละหลังจากนั้นรัฐบาลโซเวียตได้เปลี่ยนชื่อเมืองกชาทสค์ บ้านเกิดของเขาให้เป็นเมืองกาการิน เพื่อสดุดีผลงานของนักบินอวกาศคนเเรกของชาติเเละของโลกที่ไปถึงจุดที่สูงที่สุดที่มนุษย์เคยไปถึงมา

เเต่การเสียชีวิตของเขาก็ถูกตั้งข้อสังเกตจากชาติตะวันตกที่เป็นปฎิปักษ์กับโซเวียตในขณะนั้นว่าเป็นแผนการลอบสังหารเขา จากหน่วยสืบราชการลับของโซเวียต หรือเคจีบี ที่ต้องการจะให้ ยูริ กาการิน เป็นสัญลักาณ์ทางความเชื่อที่ไม่มีวันตาย เเละเป็นอมตะตลอดไป ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าจริงเท็จเเค่ไหน เเต่สิ่งหนึ่งที่ได้พิสูจน์เเล้วก็คือ ยูริ กาการิน เป็นมนุษย์คนเเรกที่เดินทางไปถึงอวกาสได้สำเร็จ

วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2554

Songkran


The Songkran festival (Thai: สงกรานต์, from Sanskrit saṃkrānti, "astrological passage") is celebrated in Thailand as the traditional New Year's Day from 13 to 15 April. It coincides with the New Year of many calendars of South and Southeast Asia.

The date of the festival was originally set by astrological calculation, but it is now fixed. If these days fall on a weekend, the missed days off are taken on the weekdays immediately following. If they fall in the middle of the week, many Thai take off from the previous Friday until the following Monday. Songkran falls in the hottest time of the year in Thailand, at the end of the dry season. Until 1888 the Thai New Year was the beginning of the year in Thailand; thereafter 1 April was used until 1940. 1 January is now the beginning of the year. The traditional Thai New Year has been a national holiday since then.

Songkran has traditionally been celebrated as the New Year for many centuries, and is believed to have been adapted from an Indian festival. It is now observed nationwide, even in the far south. However, the most famous Songkran celebrations are still in the northern city of Chiang Mai, where it continues for six days and even longer. It has also become a party for foreigners and an additional reason for many to visit Thailand for immersion in another culture.

New year traditions The most obvious celebration of Songkran is the throwing of water. Thais roam the streets with containers of water or water guns (sometimes mixed with mentholated talc), or post themselves at the side of roads with a garden hose and drench each other and passersby. This, however, was not always the main activity of this festival. Songkran was traditionally a time to visit and pay respects to elders, including family members, friends and neighbors.

Besides the throwing of water, people celebrating Songkran may also go to a wat (Buddhist monastery) to pray and give food to monks. They may also cleanse Buddha images from household shrines as well as Buddha images at monasteries by gently pouring water mixed with a Thai fragrance (Thai: น้ำอบไทย) over them. It is believed that doing this will bring good luck and prosperity for the New Year. In many cities, such as Chiang Mai, the Buddha images from all of the city's important monasteries are paraded through the streets so that people can toss water at them, ritually 'bathing' the images, as they pass by on ornately decorated floats. In northern Thailand, people may carry handfuls of sand to their neighborhood monastery in order to recompense the dirt that they have carried away on their feet during the rest of the year. The sand is then sculpted into stupa-shaped piles and decorated with colorful flags.

Some people make New Year resolutions - to refrain from bad behavior, or to do good things. Songkran is a time for cleaning and renewal. Besides washing household Buddha images, many Thais also take this opportunity to give their home a thorough cleaning.

Some children having fun at the Bangkok Zoo during Songkran.The throwing of water originated as a way to pay respect to people, by capturing the water after it had been poured over the Buddhas for cleansing and then using this "blessed" water to give good fortune to elders and family by gently pouring it on the shoulder. Among young people the holiday evolved to include dousing strangers with water to relieve the heat, since April is the hottest month in Thailand (temperatures can rise to over 100°F or 40°C on some days). This has further evolved into water fights and splashing water over people riding in vehicles.

Nowadays, the emphasis is on fun and water-throwing rather than on the festival's spiritual and religious aspects, which sometimes prompts complaints from traditionalists. In recent years there have been calls to moderate the festival to lessen the many alcohol-related road accidents as well as injuries attributed to extreme behavior such as water being thrown in the faces of traveling motorcyclists.

The water is meant as a symbol of washing all of the bad away and is sometimes filled with fragrant herbs when celebrated in the traditional manner.

Songkran is also celebrated in many places with a pageant in which young women demonstrate their beauty and unique talents, as judged by the audience. The level of financial support usually determines the winner, since, to show your support you must purchase necklaces which you place on your chosen girl.

วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2554

อู้ว วันครบรอบ 119 ปี ตั้งแต่กำเนิดไอศครีมซันเดย์

วันเกิดไอศครีมซันเด 3 มี.ค. 1892 แล้วทำไมต้องซันเด?

ถ้าใครเริ่มเข้าเว็บไซต์ google ตอนนี้ ก็จะสังเกตเห็นภาพ Doodles เปลี่ยนไปอีกแล้ว

ice cream sundae ไอศครีมซันเดย์ ประวัติ และ ที่มา การแพร่หลายของไอศกรีมจากฝรั่งเศสเข้าไปอเมริกา ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17จนไอศกรีมกลายเป็นของหวานที่ผู้คนชื่นชอบกันมาก ในช่วงนี้ตำนานไอศกรีมในสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ 'ไอศกรีมซันเดย์'ได้ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความอึมครึมเนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่า เกิดขึ้นในรัฐไหนกันแน่ แต่ที่แน่ๆในราวๆปี พ.ศ. 2435 ไอศกรีมซันเดย์ได้ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความตื่นเต้นของอเมริกันชนสมัยนั้นอย่างถ้วนหน้า

เล่ากันสืบมาว่า ในรัฐนิวยอร์มีการนำคำว่า 'ซันเดย์'มาใช้ตั้งชื่อไอศกรีม สืบเนื่องจากทางร้านขายยาที่มีชื่อ 'แพลตต์แอนด์โคต์' โดยนายเชสเตอร์ แพลตต์ เจ้าของร้านเกิดไอเดียใหม่ๆขึ้นมาโดยการนำเอาไอศกรีมมาจำหน่าย ตามปรกติแล้วเชสเตอร์เขาจะตักไอศกรีมขายปรกติธรรมดาๆ ต่อมาวันหนึ่งซึ่งเป็นวันอาทิตย์ นายเชสเตอร์ แพลตต์ ได้รับแรงดลใจอะไรสักอย่างเลยตักไอศกรีมใส่ถ้วยแชมเปญแล้วนำเอาไซปรัสรสเชอรี่มาราดลงบนก้อนไอศกรีมด้วย และประดับด้วยผลเชอรี่แช่อิ่มบนยอด ดูสวยงามน่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง
จากกลยุทธ์อันนี้เองสามารถเรียกร้องความสนใจจากลูกค้าขาประจำและขาจรของนายเชสเตอร์ แพลลต์ได้เป็นอย่างดี
หลังจากที่เกิดไอเดียอันบรรเจิดจนได้'ไอศกรีมหน้าตากแปลกๆ'ดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่าไอศกรีมดังกล่าวก็ขายดีเป็นเท น้ำเทท่า จนนายเชสเตอร์ แพลตต์ จนนับเงินกันแทบไม่ทัน และเขาไม่ลืมที่จะตั้งชื่อให้ ไอศกรีมสูตรดังกล่าวเสียอย่างเลิศหรูว่า 'Cherry Sunday' โดยให้เหตุผลง่ายๆว่า เพราะมันก่อกำเนิดขึ้นในวันอาทิตย์นั่นเอง

ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราได้รับรู้รับทราบถึงเส้นทางของ 'ไอศกรีมซันเดย์' ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร แต่นั่นไม่ได้เป็นตำนานเดียวเท่านั้น เนื่องจากยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับไอศกรีมซันเดย์อีกหลายตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา

ว่ากันว่าแต่ก่อนมีการขายไอศครีมโซดาทุกวัน จนกระทั่งปี ค.ศ. 1875 กฎหมายของมลรัฐอิลลินอยส์ได้ร่างออกมา ห้ามขายไอศครีมโซดาในวันอาทิตย์
ดังนั้น เฉพาะวันอาทิตย์จึงมีการคิดค้นสูตรไอศครีมขึ้นมาใหม่ ผสมน้ำหวานแทนโซดา

ปรากฎว่าไอศครีมเลี่ยงกฎหมายตัวนี้ กลับขายดีเป็นที่นิยมมาก จนแม้วันธรรมดาก็มีผู้ถามหาโดยเรียกไอศครีมนี้ว่า 'ไอศครีมซันเดย์' (Sunday) แต่เจ้าหน้าที่รัฐได้ออกมา ห้ามใช้ชื่อ Sunday
เพราะวันอาทิตย์เป็นวัน แซบบาธ (Sabbath) ซึ่งถือว่าเป็นวันสำคัญในการประกอบพิธีทางศาสนาของชาวคริสต์ จึงได้มีการเปลี่ยนตัวสะกดจาก Sunday เป็น Sundae แทน